บทพุทธชัยมงคลคาถา
(* ถ้าสวดให้แก่ผู้อื่น
ให้เปลี่ยนจาก “เม” เป็น “เต” แปลว่า แก่ท่าน)
๑
|
พาหุง สะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาภพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะพญามาร ซึ่งได้เนรมิตแขนตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ
ขี่ช้างพลายคีรีเมกข์
พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องกึกก้อง
ด้วยธรรมวิธี
มีทานบารมี เป็นตันนั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย
จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
๒
|
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะอาฬวกยักษ์ดุร้าย ผู้มีจิตกระด้างลำพอง
หยาบช้ายิ่งกว่าพญามาร
เข้ามารุกรานราวีตลอดรุ่งราตรี
ด้วยวิธีทรมานอันดีคือขันติธรรมนั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
๓
|
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะพญาช้างนาฬาคิรี ซึ่งกำลังเมามันร้ายแรง
เหมือนไฟป่าที่ลุกลาม
ร้องโกญจนาทเหมือนฟ้าฟาด
ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำคือพระเมตตานั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
๔
|
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะองคุลิมาลโจร
ทารุณร้ายกาจนัก ทั้งฝีมือเยี่ยม
ควงดาบไล่ตามพระองค์ไปตลอดทาง ๓
โยชน์
ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์นั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
๕
|
กัตวานะ (อ่านว่า กัดตะวานะ) กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะนางจิญจมาณวิกา (อ่านว่า
จินจะมานะวิกา)
ที่ทำมารยาแสร้งกล่าวโทษพระองค์ โดยผูกท่อนไม้กลม
แนบเข้ากับท้อง ทำเป็นมีครรภ์แก่
ด้วยความสงบงามในท่ามกลางประชุมชนนั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
๖
|
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
ผู้รุ่งเรืองด้วยดวงประทีปคือปัญญา ได้พบทางชำนะสัจจกนิครนภ์
(อ่านว่า สัดจะกานิครน) ผู้มีนิสัยตลบตะแลง มีสันดานโอ้อวดมืดมน
ด้วยสัจจวาจานั้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
๗
|
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม*ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
โปรดให้พระโมคคัลลานะเถระพุทธชิโนรส
นิรมิตกายเป็นนาคราช
ไปปราบนันโทปนันทนาคราช
ผู้มีฤทธิ์มาก แต่มีความรู้ผิด
ด้วยวิธีแสดงอุปเทห์แห่งฤทธิ์นั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
๘
|
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม*ชะยะมังคะลานิ ฯ |
ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะท้าวพกาพรหมผู้มีฤทธิ์มีความสำคัญตนผิด
ว่าเป็นผู้มีฤทธิ์ รุ่งเรืองด้วยวิสุทธิคุณ
ถือมั่นด้วยมิจฉาทิฏฐิ
เหมือนถูกงูร้ายกำลังตรึงรัดไว้แน่นแฟ้น
ด้วยวิธีประทานยาพิเศษ
คือเทศนาญาณนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย
จงมีแก่ข้าพเจ้า
|
|
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา
โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ (อ่านว่า หิดตะวานะ) เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ (อ่านว่า อะทิคะไมยยะ) นะโร สะปัญโญ ฯ |
|
นรชนใด ไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี
ระลึกก็ดี ซึ่งพระพุทธชัยมงคล
๘ คาถา แม้เหล่านี้ทุกๆวัน
นรชนนั้นจะพึงละเสียได้
ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งหลาย มีประการต่างๆ เป็นเอนก
ถืงซึ่งวิโมกขสิวาลัย (หมายถึง
บรรลุมรรค ผลนิพพาน)
อันเป็นบรมสุขแลฯ
|
