วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บทพุทธชัยมงคลคาถา

บทพุทธชัยมงคลคาถา
(* ถ้าสวดให้แก่ผู้อื่น ให้เปลี่ยนจาก “เม” เป็น “เต” แปลว่า แก่ท่าน)


พาหุง สะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาภพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะพญามาร  ซึ่งได้เนรมิตแขนตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ
ขี่ช้างพลายคีรีเมกข์ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องกึกก้อง
ด้วยธรรมวิธี มีทานบารมี เป็นตันนั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า

มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะอาฬวกยักษ์ดุร้าย ผู้มีจิตกระด้างลำพอง
หยาบช้ายิ่งกว่าพญามาร เข้ามารุกรานราวีตลอดรุ่งราตรี
ด้วยวิธีทรมานอันดีคือขันติธรรมนั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า

นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะพญาช้างนาฬาคิรี  ซึ่งกำลังเมามันร้ายแรง
เหมือนไฟป่าที่ลุกลาม ร้องโกญจนาทเหมือนฟ้าฟาด 
ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำคือพระเมตตานั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า

อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะองคุลิมาลโจร ทารุณร้ายกาจนัก ทั้งฝีมือเยี่ยม
ควงดาบไล่ตามพระองค์ไปตลอดทาง ๓ โยชน์
ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์นั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า

กัตวานะ (อ่านว่า กัดตะวานะ) กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะนางจิญจมาณวิกา (อ่านว่า จินจะมานะวิกา)
ที่ทำมารยาแสร้งกล่าวโทษพระองค์  โดยผูกท่อนไม้กลม
แนบเข้ากับท้อง ทำเป็นมีครรภ์แก่
ด้วยความสงบงามในท่ามกลางประชุมชนนั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า


สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
ผู้รุ่งเรืองด้วยดวงประทีปคือปัญญา  ได้พบทางชำนะสัจจกนิครนภ์
(อ่านว่า สัดจะกานิครน)  ผู้มีนิสัยตลบตะแลง มีสันดานโอ้อวดมืดมน
ด้วยสัจจวาจานั้น  ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม*ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
โปรดให้พระโมคคัลลานะเถระพุทธชิโนรส นิรมิตกายเป็นนาคราช
ไปปราบนันโทปนันทนาคราช ผู้มีฤทธิ์มาก แต่มีความรู้ผิด
ด้วยวิธีแสดงอุปเทห์แห่งฤทธิ์นั้น
ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า

ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เม*ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมมุนี
ได้ทรงชำนะท้าวพกาพรหมผู้มีฤทธิ์มีความสำคัญตนผิด
ว่าเป็นผู้มีฤทธิ์ รุ่งเรืองด้วยวิสุทธิคุณ ถือมั่นด้วยมิจฉาทิฏฐิ
เหมือนถูกงูร้ายกำลังตรึงรัดไว้แน่นแฟ้น ด้วยวิธีประทานยาพิเศษ
คือเทศนาญาณนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้า


เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา
โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะ (อ่านว่า หิดตะวานะ) เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ (อ่านว่า อะทิคะไมยยะ) นะโร สะปัญโญ ฯ

นรชนใด ไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี  ซึ่งพระพุทธชัยมงคล
๘ คาถา แม้เหล่านี้ทุกๆวัน นรชนนั้นจะพึงละเสียได้
ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งหลาย  มีประการต่างๆ เป็นเอนก
ถืงซึ่งวิโมกขสิวาลัย (หมายถึง บรรลุมรรค ผลนิพพาน)
อันเป็นบรมสุขแลฯ