บทชัยปริตร
(* ถ้าสวดให้แก่ผู้อื่น
ให้เปลี่ยนจาก “เม” เป็น “เต” แปลว่า แก่ท่าน)
มะหาการุณิโก นาโถ
หิตายะ สัพพะปาณินัง
ปูเรต๎วา (อ่านว่า ปูเรตะวา) ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม* ชะยะมังคะลัง ฯ |
พระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์
ประกอบด้วยแล้วด้วยพระมหากรุณา
ยังบารมีทั้งหลายทั้งปวงให้เต็ม
เพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
ถึงแล้วซึ่งความตรัสรู้อันอุดม
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
|
ชะยันโต โพธิยา มูเล
สัก๎ยานัง (อ่านว่า สักกะยานัง) นันทิวัฑฒะโน (สวดให้ตนเอง) เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ ชะยามิ
(สวดให้คนอื่น) เอวัง ต๎วัง
วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ
ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก
สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ ฯ |
พระจอมมุนีทรงชนะมาร ที่โคนโพธิพฤกษ์
ยังความปิติยินดีให้เพิ่มพนแก่ชาวศากยะ
ฉันใด
ขอข้าพจงมีชัยชนะ ฉันนั้น
ขอท่านจงมีชัยชนะ ฉันนั้น
ดั่งพระองค์ผู้เป็นเลิศในชัยมงคลพิธี
อยู่บนอปราชิตบัลลังก์ (หมายถึง
บัลลังก์แห่งผู้ไม่อัปราชัย)
เป็นจอมมหาปฐพี
ถึงความอภิเษก
เป็นอย่างแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ยังให้พระประยูรญาติศากยวงศ์
มีความยินดีเป็นเลิศ
|
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พ๎รัห๎มะจาริสุ (อ่านว่า พรัมมะจาริสุ) |
สัตว์ทั้งหลายเมื่อประพฤติชอบ
เวลานั้นชื่อว่า ฤกษ์ดี มงคลดี
เวลาสว่างก็ดี ยามรุ่งก็ดี
แม้ขณะก็ดี ครู่เดียวก็ดี
เป็นการปฏิบัติบูชาดีแล้ว
ในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย
|
ปะทักขิณัง กายะกัมมัง
วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เม*ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัต๎วานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ |
กายกรรม เป็นกุศล
วจีกรรม เป็นกุศล
มโนกรรม เป็นกุศล
ความปรารถนาของข้าพเจ้า เป็นกุศล
สัตว์ทั้งหลาย
ทำกรรมอันเป็นกุศลแล้ว
ย่อมได้ประโยชน์ทั้งหลาย
อันเป็นกุศล
|